กาบริแอลา กานพลู และอบเชย: เรื่องรักแหกคอกของกาบริแอลาและชุลีพร

กาบริแอลา กานพลู และอบเชย: เรื่องรักแหกคอกของกาบริแอลาและชุลีพร

1.

กาบริแอลา กานพลู และอบเชย คือนวนิยายเล่มดังของนักเขียนชาวบราซิลผู้มีนามว่า ฌอร์จ อะมาดู เผยแพร่ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1958 ในฉบับภาษาไทยแปลโดย กอบชลี สำนักพิมพ์ Library House เล่าเรื่องรักแหกคอกระหว่างกาบริแอลากับนาซีบิที่เกิดขึ้นในเมืองอิวเญวส์ปี ค.ศ. 1925 ช่วงเวลาที่เมืองชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกแห่งนี้กำลังจะสาวเท้าก้าวจากความป่าเถื่อนเปลี่ยนไปเป็นเมืองที่กำลังจะก้าวหน้า เช่นนี้เอง ความรักระหว่างกาบริแอลากับนาซีบิจึงเกิดขึ้นมาบนซากปรักของความล้าหลัง

 

2.

ถ้าเปรียบเป็นดอกไม้ กาบริแอลาเป็นดอกไม้ในทุ่ง ซึ่ง “ดอกไม้ในทุ่งอยู่ในแจกันไม่ได้” กาบริแอลาเป็นสาวลูกผสมระหว่างผิวสีกับผิวขาว ทำให้ผิวกายของกาบริแอลาคล้ายสีกานพลู ผู้ประพันธ์บรรยายว่าเธอมีกลิ่นกายคล้ายอบเชย สวย ร่าเริง และเป็นนักแสวงหาทางเพศ มีฝีมือเด่นในการปรุงอาหาร เธอชอบผู้ชายหล่อ ชอบหลับนอนกับพวกเขา แต่ไม่ใช่ความรักในความหมายที่สังคมเมืองอิวเญวส์เข้าใจ (แต่งงานเป็นแม่เป็นเมีย) ดูเหมือนว่าความรักจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับกาบริแอลา “จะแต่งงานไปทำไม ไม่จำเป็นเลย” เธอเดินเท้าเปล่า เต้นรำ ร้องเพลง และนอนกับผู้ชายหล่อๆ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นทาสหรือเจ้าของไร่โกโก้ เป็นบัณฑิตหรือเจ้าของบาร์ ขอแค่พวกผู้ชายเหล่านั้นหล่อหรือมีความน่ารักที่ประทับใจเธอ บุรุษผู้ต้องการหลีกเลี่ยงความหึงหวงพึงอยู่ห่างกาบริแอลา

 

3.

เมืองอิวเญวส์ในปี ค.ศ. 1925 อยู่ในอาณาจักรของความล้าหลังและป่าเถื่อน แต่ปริมณฑลของความก้าวหน้ากำลังแผ่วงกินพื้นที่เข้ามา เมืองอิวเญวส์เป็นนครแห่งการปลูกต้นโกโก้ ภูมิศาสตร์ที่เป็นเมืองชายฝั่งจึงมีศักยภาพที่จะเติบโตด้วยการส่งออกโกโก้ด้วยตนเอง แต่ปัญหาก็คือสันดอนทรายที่ขวางเรือขนสินค้าลำใหญ่เข้ามาเทียบท่าขนถ่ายสินค้า แม้ว่าการว่าจ้างวิศวกรมาขุดลอกร่องน้ำเพื่อเปิดทางให้เรือขนสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาเทียบท่ารับผลโกโก้จากเมืองอิวเญวส์ส่งออกไปทั่วโลก จะเป็นความคิดที่น่าสนใจ แต่ผู้คนในเมืองกลับยึดถืออุดมการณ์ทางการเมืองของฝ่ายตนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของเมือง

 

4.

นอกจากสันดอนทรายที่ขวางความก้าวหน้าของเมือง กลุ่มคนที่มีอำนาจในการบริหารเมืองก็ยังเป็นกลุ่มอำนาจที่ผูกขาดการบริหารเมืองมาอย่างยาวนาน พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการขุดลอกร่องน้ำ โจมตีความเจริญจากสโมสร โรงภาพยนตร์ การเต้นรำ พวกเขาเป็นกลุ่มคนผู้มีอำนาจ เงิน บริวาร ลูกสมุน พวกเขาคือบรรดาเจ้าของไร่โกโก้ ถูกเรียกอย่างมียศถาบรรดาศักดิ์ว่า “โกโรเนล” พร้อมจะทำทุกสิ่งใต้เข็มขัดเพื่อยึดกุมอำนาจไว้

 

5.

ก่อนหน้าปี 1925 เมืองอิวเญวส์เพิ่งผ่านพ้นสภาพสงครามแย่งชิงที่ดิน ผู้คนฆ่าฟันและล้มตายเป็นจำนวนมาก เป็นความป่าเถื่อนเฉพาะตัวของเมืองอิวเญวส์ ผู้ยังอยู่คือผู้ที่ยืนอยู่หลังปากกระบอกปืน ส่วนผู้ตายยืนทิศตรงข้าม พวกโกโรเนลสะสมที่ดิน เงินทอง และอำนาจทางการเมือง

 

6.

เมื่อมีทั้งที่ดิน เงินทอง ข้าทาส และอำนาจทางการเมือง กลุ่มอนุรักษนิยมในเมืองอิวเญวส์จึงเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ หรือวิถีปฏิบัติ และผูกขาดทางการเมือง แม้จะโจมตีความก้าวหน้าที่เข้ามาในเมือง แต่การนอกใจภรรยาเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างมีเกียรติ แต่หากผู้หญิงทำในสิ่งเดียวกัน ผลลัพธ์คือความตาย ทั้งผู้หญิงและชู้รักของหล่อน วิถีปฏิบัติแบบนี้ได้เซ็ตโครงสร้างระบบยุติธรรมของเมืองขึ้นมา ชายผู้สังหารภรรยาตนและชู้รักของหล่อนไม่เคยถูกพิพากษาให้มีความผิด เพราะเขาถูกนางแพศยานอกใจ ส่วนชู้รักผู้สมควรตายไปพร้อมกับหล่อนนั้นก็เป็นพวกตักตวงผลประโยชน์ในสิ่งที่ตนไม่ได้ลงทุน ชายใดที่ไว้ชีวิตให้ภรรยาที่นอกใจคือชายที่ไร้ซึ่งเกียรติยศที่ควรให้ความนับถือ เจ้านายสามารถหลับนอนกับทาสคนใดในไร่โกโก้ก็ได้ ถ้าเขาชอบหล่อนก็จะส่งเสียให้พ้นสถานะทาสในไร่มาเป็นทาสรักในบ้านสักหลังบนมุมถนนของเมือง ผู้หญิงเมืองอิวเญวส์มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกในปี 1932 ปีเดียวกับที่สยามเปลี่ยนแปลงการปกครอง

 

7.

แต่ไม่ทุกคนที่คิดเหมือนกัน เมืองอิวเญวส์ในปี 1925 มีคนหัวก้าวหน้าที่ออกมาส่งเสียงและท้าทายกลุ่มอำนาจเก่า คนรุ่นใหม่ที่อยากปลดปล่อยเมืองจากกรงขังศักยภาพ กลุ่มคนหัวก้าวหน้ากลุ่มนี้คือกลุ่มพ่อค้าส่งออก กัปตันเดินเรือ ปัญญาชน พวกเขาต้องการขุดลอกร่องน้ำให้มีความลึกเพื่อการส่งออก นั่นจะทำให้เมืองอิวเญวส์สามารถส่งออกโกโก้ได้ด้วยตนเอง

 

8.

การต่อสู้ทางการเมือง การต่อสู้ในธรรมเนียมปฏิบัติของสังคม ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศและชนชั้น เป็นอากาศที่ห้อมล้อมเรื่องรักระหว่างกาบริแอลากับนาซีบิ ผู้เป็นตัวพระนางของเรื่องนี้

 

9.

นาซีบิเป็นเจ้าของบาร์ เป็นนักธุรกิจผู้ใฝ่ฝันว่าจะเก็บเงินซื้อไร่โกโก้สักผืน แม้ว่าคนทั้งเมืองอิวเญวส์จะถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย แม้ว่าผู้คนในโลกศตวรรษที่ 21 จะตั้งข้อสงสัยถึงความเป็นกลางทางการเมือง แต่นาซีบิก็ยืนหยัดที่จะวางจุดยืนของตนที่ตรงความเป็นกลาง ไม่ว่าจะทางการเมืองและทางมิตรภาพ เพราะบาร์ของเขาคือพื้นที่รวมคนที่มีความคิดทั้ง 2 ฝั่งของเมือง นาซีบิจึงต้องวางตัวเป็นกลาง เขาจึงเป็นเพื่อนกับทั้งฝ่ายหัวก้าวหน้าและเป็นมิตรกับฝ่ายอนุรักษนิยม ในการเสนอชื่อคณะกรรมการบริหารเมืองในการเลือกตั้งของทั้งสองฝ่าย จึงมีชื่อนาซีบิปรากฏในลิสต์ของทั้งสองฝ่าย – เป็นกลางของจริง

 

10.

กาบริแอลาเป็นเด็กกำพร้าผู้เดินทางอพยพมาหางานทำกับกลุ่มทาส เธอเข้ามาในเมืองอิวเญวส์พร้อมกับทำให้ผู้ชายทุกคนในเมืองอยากได้หล่อนเป็นสมบัติในบ้านบนหัวมุมถนนของเมืองสักหลัง แต่กาบริแอลาพอใจกับการเป็นแม่ครัวให้นาซีบิ ทำครัวตอนกลางวันและหลับนอนกับเขาตอนกลางคืน

 

11.

ดอกไม้ในทุ่งอยู่ในแจกันไม่ได้ – น่าจะเป็นคำอธิบายถึงตัวตนของกาบริแอลาได้ดีที่สุด เมื่อผู้ชายทั้งเมืองต่างยื่นข้อเสนอให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน ความเป็นอยู่ที่สุขสบาย แต่เธอพอใจแค่การทำครัวและหลับนอนกับเจ้านายของตน – แค่นี้ก็พอแล้ว แต่ผู้ชายทั้งเมืองรบเร้าให้หล่อนเป็นเมียเก็บพวกเขา นาซีบิจึงต้องแต่งงานกับหญิงสาวในชนชั้นทาส เพื่อไม่ให้สูญเสียแม่ครัวมือดีและทาสรัก การแต่งงานจะทำให้หล่อนเป็นหญิงชนชั้นสูง เชิดหน้าชูตาตัวเขา แต่ดอกไม้ในทุ่งอยู่ในแจกันไม่ได้ ทั้งสองหย่าร้างกันเนื่องจากกาบริแอลากำลังจะนอกใจนาซีบิ เขาปล่อยให้ชู้รักของภรรยาวิ่งหนีไปต่อหน้า และนำเธอออกมาจากแจกันไปปล่อยในทุ่งแทนที่จะฆ่าทั้งสองเช่นธรรมเนียมปฏิบัติของบุรุษในเมืองที่เคยทำกันมา เมืองอิวเญวส์ตื่นตะลึงกับการตัดสินใจของนาซีบิ

 

12.

ช่วงที่ผู้เขียนกำลังอ่าน กาบริแอลา กานพลู และอบเชย กระแสมุกตลกหลวงปู่เค็มในโลกโซเชียลเรียกร้องความสนใจ จึงทำให้แบ่งเวลาจากกาบริแอลาไปค้นหาฟุตเทจเก่าๆ ของตลกคาเฟ่มานั่งดู จนมาเจอเรื่องรักระหว่างชายอายุ 78 กับหญิงสาวอายุ 28

 

13.

อั๋น-ชุลีพร เป็นภรรยาคนสุดท้ายของ ล้อต๊อก ตลกสี่แผ่นดินผู้ล่วงลับ ในฟุตเทจเมื่อปี 2540 ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ถึงอัตชีวประวัติเรื่องความรัก ในตอนนั้นชุลีพรเป็นนักร้องและโฆษกของคณะการแสดงของล้อต๊อก พวกเขาเล่าว่า ได้เสียกัน แต่ “ไม่ได้รัก” ชุลีพรบอกว่า ที่ยอมบริจาคความสาวให้ชายรุ่นพ่อก็เพราะเขาเป็นเจ้านายและกลัวจะโดนไล่ออก

“เราเป็น รสช.” ล้อต๊อกอุปมาถึงเรื่องบนเตียงของเขาเทียบกับคณะรัฐประหารในปี 2534

 

14.

“ตอนแรกไม่ได้รักเลย หวังจะหลอกป๋าด้วยซ้ำ” ชุลีพรให้สัมภาษณ์ในวันที่ล้อต๊อกแต่งงานกับเธอ ทั้งคู่อายุห่างกัน 50 ปี แต่ความรักผลิดอกเมื่อตอนที่ล้อต๊อกป่วยเป็นฝีในตับ เธอดูแลอีกฝ่ายอย่างดี มันคือความรัก และทั้งคู่มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ก่อนที่ล้อต๊อกจะเสียชีวิตในอีกไม่กี่ปีต่อมา

 

15.

เรื่องราว บุคลิกของชุลีพรทำให้นึกถึงกาบริแอลา คาแรคเตอร์ของกาบริแอลาต่างจากชุลีพร ชุลีพรกร้านกว่า แต่ทั้งสองคนไม่มีสิ่งไหนเลยที่สังคมคาดหวังจากความเป็นผู้หญิงของพวกเธอ แกบริแอลาสวยแต่ไม่ยอมสงวนความสวยและสาวไว้กับผู้ชายเพียงคนเดียว ชุลีพรไขว่คว้า ดิ้นรน ทำได้ทุกอย่างให้ชีวิตถีบตัวของมันเองขึ้นไป กระทั่งกล้าบอกว่า “ยอมนอนด้วยเพราะกลัวโดนไล่ออก ตอนแรกไม่ได้รักและคิดจะหลอกเอาเงินป๋า” แต่เรื่องราวของกาบริแอลามีจุดจบที่ตราตรึงและสวยงาม เพราะนวนิยายมีตอนจบ แต่ชีวิตไม่ใช่เช่นนั้น

 

16.

หลังจากที่นาซีบิหย่าขาดจากแกบริแอลา ยึดเอาสถานะคุณผู้หญิงที่เธอไม่เคยต้องการกลับมาไว้กับความเป็นหนุ่มโสดของตนอีกครั้ง ปล่อยให้กาบริแอลามีอิสระเสรีในทุ่งดอกไม้ป่า เพราะเมื่อดอกไม้ในทุ่งไม่สามารถอยู่ในแจกัน ความรักมันจึงเกิดนอกแจกัน กาบริแอลาได้โอกาสกลับมาเป็นแม่ครัวให้กับบาร์และภัตตาคารของนาซีบิ ทั้งสองกลับไปมีความสัมพันธ์เหมือนช่วงก่อนจะแต่งงานกัน กาบริแอลาทำครัว ปรนนิบัตินายจ้าง หลับนอนกับเขาในตอนกลางคืน ทำอาหารให้เขาในตอนกลางวัน ไม่มียศไม่มีศักดิ์ เป็นแค่แม่ครัวที่หลับนอนกับเจ้านาย ไม่มีความหึงหวงอีกต่อไปเพราะเธอไม่ใช่ภรรยา จะใช่ความรักหรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ความทุกข์ทุรนนั่นไม่มีแล้ว ดับแล้ว พวกเขากลับไปในความรู้สึกใคร่ต่อกัน จะใช่ความรักหรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ไม่มีปรารถนาที่จะเปลี่ยนอีกฝ่ายให้เป็นตามใจตนแล้ว ดับแล้ว นิยายจบและหยุดเรื่องรักแหกคอกนี้ไว้ในกลิ่นเครื่องเทศและเหนอะเหนียวของเหงื่อยามร่วมรักระหว่างนายจ้างกับทาสรัก แต่ชีวิตของชุลีพรต่างออกไป แม้เรื่องรักของเธอกับกาบริแอลาจะมีความแหกคอกเหมือนกัน เพราะชีวิตนั้นสามารถตีความให้มีจุดจบและจุดเริ่มได้ทุกวัน มันยังไม่นิ่ง

 

17.

หลายปีต่อมา ลูกชายของชุลีพรเติบโตเป็นคนหนุ่ม ส่วนเธอ-ความสาวยังรั้งรอบนใบหน้า แต่ก็อ่อนแรงเต็มทีแล้ว ชุลีพรในวัย 50 พบรักกับเด็กหนุ่มอายุ 20 ต้นๆ อายุรุ่นเดียวกับลูกชายของเธอ นี่คือรักครั้งใหม่ ความรักกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เมื่อเขาเติบโตเป็นชายหนุ่มวัย 30 เธอจะมีอายุ 60 และเมื่อเขามั่นคงทั้งอารมณ์และเหตุผล เธอก็จะอายุ 70 ส่วนเขาจะเป็นผู้ชายที่ยิ่งแก่ยิ่งสุขุมและดูดี ส่วนเธอก็จะกลายเป็นหญิงชราเท่าๆ กับอดีตคนรักผู้ล่วงลับไปแล้วคนนั้น.

author

Random books